ก่อนที่จะมีการดำเนินการห้ามขายอนุพันธ์สกุลเงินดิจิทัลในสหราชอาณาจักรแก่นักลงทุนรายย่อยนั้น FCA ได้สอบถามบริษัทกว่า 500 แห่ง หน่วยงานการค้า และหน่วยงานที่มีอำนาจเกี่ยวกับความคิดเห็นของพวกเขา ที่น่าสนใจก็คือผลสรุปที่ออกมาอย่างชัดเจนว่า 97% ของผู้เข้าร่วมทั้งหมดไม่เห็นด้วยกับข้อห้ามอนุพันธ์ของ Cryptocurrency ดังกล่าว
หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ของสหราชอาณาจักร มีการเสนอให้มีการห้ามการขายการโฆษณา และการแจกจ่ายให้กับลูกค้ารายย่อยของอนุพันธ์สกุลเงินดิจิทัล และ exchange-traded notes (ETN) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2019
ไม่นานหลังจากนั้น หน่วยงานกำกับดูแลก็ได้รวบรวมแบบสำรวจซึ่งเผยแพร่ในเดือนตุลาคม 2020 โดยได้สอบถามผู้เข้าร่วม 527 คนจาก “บริษัท หน่วยงานการค้า ผู้บริโภครายย่อยและหน่วยงานที่มีอำนาจของสหภาพยุโรป (NCA)” เกี่ยวกับความคิดเห็นของพวกเขาในเรื่องนี้
และผลการวิจัยก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้ตอบแบบสอบถามเกือบทั้งหมด (97%) ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ FCA ที่ห้ามขายอนุพันธ์ของสินทรัพย์ดิจิทัล
คนส่วนใหญ่โต้แย้งว่า สกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่าที่แท้จริงเนื่องจากได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีการชำระค่าสินค้าและบริการ และมีการอ้างชื่อของบริษัท เช่น Starbucks และ Microsoft ที่อนุญาตให้ชำระเงินด้วย Bitcoin ผ่านบริการที่ของ Bakkt
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังยืนยันว่าลูกค้ารายย่อยสามารถประเมินมูลค่าและความเสี่ยงของอนุพันธ์ของสกุลเงินดิจิทัลได้ และแนะนำให้ FCA ใช้มาตรการอื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการปกป้องนักลงทุน
แต่แม้จะมีผลสรุปจากการสำรวจ หน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักรก็ได้ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการห้ามจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2021 แม้ว่า 97% จะคัดค้านแต่ก็ไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลสรุปว่า “สินทรัพย์เ Crypto มีความซับซ้อนและไม่น่าเชื่อถือในฐานะสินทรัพย์อ้างอิงสำหรับการลงทุนสำหรับผู้บริโภครายย่อย”
FCA ยังได้โต้แย้งว่า บริษัทที่รับ Bitcoin เป็นวิธีการชำระเงินจะแปลง bitcoin เป็นสกุลเงิน fiat ทันที ดังนั้น “สกุลเงิน fiat ยังคงเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน” และ “เราไม่คิดว่าการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ Crypto เป็นสกุลเงิน fiat จะเท่ากับมูลค่าที่แท้จริง”
รายงานยังระบุถึงความผันผวนที่สูงของสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักในการใช้เป็นวิธีการชำระเงิน โดยหน่วยงานกำกับดูแลเชื่อว่า “ความผันผวนที่ลดลงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเขา [สินทรัพย์ดิจิทัล] ที่จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการซื้อสินค้าและบริการ”
อ้างอิง : LINK