อัตราเงินเฟ้อของ Fiat ทำให้ผู้ซื้อ Bitcoin ต้องเสียเงิน 20% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin ( BTC ) ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีสิ่งหนึ่งที่ตามมาด้วยนั่นคืออัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว Bitcoin จะอยู่ในสกุลเงิน fiat ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นดอลลาร์สหรัฐ – จึงไม่สามารถต้านทานการอ่อนค่าได้

ในทศวรรษหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สหรัฐฯมีอัตราเงินเฟ้อต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปี อย่างไรก็ตามในช่วงทศวรรษนี้กลับเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ดังนั้นหากเราใช้ดอลลาร์ในปี 2010 เป็นฐานและใช้ค่าเสื่อมราคาในภายหลังกับราคาของ Bitcoin เท่ากับว่าราคาปัจจุบัน 10,466 ดอลลาร์จะกลายเป็น 8,770 ดอลลาร์  แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า Bitcoin เป็นการลงทุนที่ไม่ดีหรือไม่ใช่ store of value ที่ดี

ในทางตรงกันข้าม หากเราเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ Bitcoin และ USD ในทศวรรษที่ผ่านมา (ปรับตามอัตราเงินเฟ้ออีกครั้ง)  เงิน 1 ดอลลาร์ที่ลงทุนใน USD จะกลายเป็น 84 เซ็นต์ ในขณะที่ 1 ดอลลาร์ที่ลงทุนใน Bitcoin จะมีมูลค่าถึง 274,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว ดังนั้น Cryptocurrency จึงทำงานได้ดีกว่ามากในการรักษามูลค่า

Bitcoin เองก็ไม่ได้รับการยกเว้นจากภาวะเงินเฟ้อเช่นกัน แต่ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อของเงิน fiat ยังคงอยู่ในระดับต่ำและ Bitcoin ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ fiat อาจไม่สำคัญสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ วิธีเดียวที่จะหลีกหนีได้อย่างสมบูรณ์คือการหยุดการใช้ Bitcoin เทียบกับเงิน Fiat  จากนั้นอีก 10 ปีข้างหน้าเราจะคุยกันว่ามี 1 ดอลล่าร์จะซื้อได้ซักกี่ซาโตชิ

อ้างอิง : LINK

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป