Binance ถูกบริษัทเว็บเทรดของญี่ปุ่นฟ้อง โดยกล่าวหาหละหลวมการ KYC และอำนวยความสะดวกในการฟอกเงินมากกว่า 9 ล้านดอลล่าร์

Binance ถูกฟ้องในศาลสหรัฐโดยบริษัทเว็บเทรดคริปโตของญี่ปุ่น Fisco เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าอำนวยความสะดวกในการฟอกเงินมากกว่า 9 ล้านดอลล่าร์ที่ถูกขโมย

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Fisco ได้ยื่นคำร้องความยาว 33 หน้าต่อศาลของแคลิฟอร์เนีย โดยระบุว่า นโยบายที่ “หละหลวม” ของการ KYC ของ Binance เป็นเหตุให้อาชญากรไซเบอร์สามารถแปลง crypto ที่ถูกขโมยจาก Zaif ไปเป็นเงินดิจิตอลหรือเงินสดอื่น ๆ (Fisco เป็นเจ้าของ Zaif) 

Zaif ถูกแฮ็กในเดือนกันยายน 2018 และสูญเสียสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 63 ล้านดอลลาร์รวมถึง bitcoin โดย Fisco กล่าวว่า “ในที่สุดหัวขโมยที่แฮ็ก Zaif ก็ได้ฟอก 1,451.7 bitcoin ผ่าน Binance” โดยอ้างถึงการวิเคราะห์ bitcoin บล็อกเชน  โดยเงินที่ถูกฟอกมีมูลค่าประมาณ 9.4 ล้านดอลล่าร์ในเวลานั้น แต่ปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 15 ล้านดอลล่าร์

Fisco กล่าวว่า KYC และการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) ของ Binance นั้น “หละหลวมอย่างน่าตกใจ และไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม” โดยเฉพาะ Fisco กล่าวว่านโยบาย KYC ของ Binance อนุญาตให้ผู้ใช้ใหม่สามารถเปิดบัญชีและทำธุรกรรมได้ในจำนวนที่ต่ำกว่า 2 bitcoin โดยไม่ต้องระบุตัวตน สิ่งนี้หมายความว่า “โจรที่ขโมย bitcoin ก็เพียงแค่กระจาย BTC ออกไปหลาย ๆ บัญชี โดยให้มีมูลค่าต่ำกว่าเกณฑ์ 2 Bitcoin

Zaif ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ของ Binance ไม่นานหลังจากการแฮ็ก และขอให้พวกเขาระงับธุรกรรมและบัญชีที่เกี่ยวข้องกับ bitcoin ที่ถูกขโมยไป แต่ก็ไม่ทราบว่า Binance มีเจตนาหรือประมาทเลินเล่อในการขัดขวางกระบวนการฟอกเงินทั้ง ๆที่ สามารถทำได้ 

ขณะนี้ Zaif กำลังมองหาการพิจารณาคดีที่มีมูลค่ามากกว่า 9 ล้านดอลลาร์จาก Binance พร้อมดอกเบี้ยจากช่วงเวลาที่ถูกแฮ็กและ “ค่าตอบแทนที่ยุติธรรมสำหรับเวลาและเงินที่ใช้ในการติดตามทรัพย์สิน” ตามคำร้องเรียน

อ้างอิง : LINK

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป