Mick Mulvaney รักษาการหัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวของทรัมป์กล่าวว่า หาก Joe Biden ได้เป็นประธานาธิบดีจะทำให้กฎข้อบังคับต่าง ๆ “พังทลาย” ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางคนยังแสดงความกังวลว่าการบริหารของ Biden จะนำไปสู่การร่วงของตลาดหุ้น
สิ่งนี้ทำให้นักวิเคราะห์ crypto หลายคน กำลังไตร่ตรองถึงผลกระทบของการปรับฐานของตลาดหุ้นที่แข็งแกร่งต่อราคาของ Bitcoin ( BTC )
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ใน Squawk Box ของ CNBC Mulvaney กล่าวว่า Biden จะผลักดันกฎระเบียบมากมายในช่วงสั้น ๆ “ถ้า Joe Biden ชนะ คุณจะได้เห็นการพังทลายอย่างแน่นอนในช่วงเวลาสั้น ๆ”
ข้อมูลจาก Skew แสดงให้เห็นว่า Bitcoin มีความสัมพันธ์กับทองคำมากกว่าหุ้น ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ดังนั้นอาจมีการโต้แย้งว่าตลาดหุ้นที่ชะลอตัวก็สามารถกระตุ้นความเชื่อมั่นของ Bitcoin ได้เช่นกัน
นักเศรษฐศาสตร์ก็มองโลกในแง่ร้ายเช่นกัน
ตามที่ David Kass ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการเงินจาก University of Maryland ระบุว่าการเพิ่มอัตราภาษีของ Biden จะนำไปสู่ผลกำไรที่ลดลง และเมื่อเวลาผ่านไป ผลกำไรที่ลดลงอาจทำให้ราคาหุ้นลดลง และทำให้ตลาดหุ้นตกต่ำ
“อัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้กำไรลดลง และมีแนวโน้มว่าราคาหุ้นจะลดลง ซึ่งผลกระทบนี้อาจมากกว่าการชดเชยด้วยมาตรการกระตุ้นทางการคลังขนาดใหญ่ที่ผ่านโดยสภาคองเกรสและความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีขึ้นกับประเทศต่างๆในยุโรปรวมทั้งกับจีน”
ทางด้าน WSJ กล่าวว่า ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่าการเลือกตั้งของ Biden ยังคงทำให้ตลาดหุ้นได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี โดย Ed Finn ผู้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ WSJ ระบุว่า :
“มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนสหรัฐจะได้รับผลตอบแทนจากหุ้นประจำปี 15% หรือดีกว่านั้นในระหว่างการบริหารของ Biden”
อย่างไรก็ตาม มีสองสถานการณ์ที่เป็นไปได้ซึ่งการลดลงของหุ้นมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อ Bitcoin เช่นกัน โดยประการแรกหากมันทำให้ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสินทรัพย์ safe-haven เช่นทองคำดีขึ้น มันก็อาจเพิ่มโอกาสในการปรับตัวขึ้นของ BTC
ประการที่สอง การตกต่ำของหุ้นอาจพาทองคำและ Bitcoin ลงไปด้วยเช่นเดียวกับในเดือนมีนาคม และหากสถานการณ์หลังเกิดขึ้น สินทรัพย์ส่วนใหญ่ยกเว้น U.S. Treasuries ก็มีแนวโน้มที่จะลดลง
ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับราคา Bitcoin คืออะไร?
เนื่องจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับตำแหน่งประธานาธิบดีของ Biden ยังคงผสมปนเปอยู่ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะยังไม่มีผลกระทบต่อ BTC ในตอนนี้
เมื่อ Bitcoin เข้าสู่ปี 2021 จะเป็นการก้าวเข้าสู่ post-halving cycle เช่นเดียวกับในปี 2017 โดยหากย้อนกลับไปในปี 2016 พบว่า BTC ใช้เวลาประมาณ 17 เดือนในการทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 20,000 ดอลลาร์ และหาก BTC เคลื่อนไหวตาม cycle ที่คล้ายกัน นั่นจะทำให้ไตรมาสที่สี่ของปี 2021 จะเป็นจุดสูงสุดถัดไปที่เป็นไปได้สำหรับสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของโลก
อ้างอิง : LINK