Telegram ซึ่งเป็นแอพรับส่งข้อความที่เน้นในด้านความเป็นส่วนตัว กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ซึ่งถูกวางจำหน่ายบน Darknet
ฐานข้อมูลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ Telegram นับล้านถูกโพสต์บนฟอรัมใร darknet โดยปัญหานี้ได้รับการรายงานครั้งแรกโดยสำนักข่าวของรัสเซีย Kod.ru ในวันอังคาร
ตามรายงานระบุว่า ฐานข้อมูลดังกล่าวมีทั้ง หมายเลขโทรศัพท์และ ID ผู้ใช้ Telegram ที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลของผู้ใช้จำนวนเท่าใด ในขณะที่ไฟล์ฐานข้อมูลมีขนาดประมาณ 900 เมกะไบต์
ประมาณ 40% ของฐานข้อมูล
มีรายงานว่า Telegram ออกมายอมรับว่ามีฐานข้อมูลลูกค้ารั่วไหล โดยเป็นส่วนของข้อมูลผู้ติดต่อของ Telegram เมื่อมีการลงทะเบียนใช้งาน
Telegram ตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลในฐานข้อมูลรั่วไหลส่วนใหญ่จะเก่ามาก ตามรายงานระบุว่าประมาณ 84% ของรายการข้อมูลเป็นช่วงก่อนกลางปี 2019 ดังนั้นอย่างน้อย 60% ของฐานข้อมูลนั้นเก่ามากแล้ว Telegram ประกาศในรายงาน
นอกจากนี้บัญชีที่รั่วไหลออกมา 70% มาจากอิหร่าน ในขณะที่อีก 30% ที่เหลืออยู่ในรัสเซีย
โฆษกของ Telegram กล่าวว่า ช่องโหว่ดังกล่าวนั้นเป็นปัญหาสำคัญสำหรับแอปที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งก็รวมถึงคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทอย่าง WhatsApp :
“เช่นเดียวกับแอปส่งข้อความทางโทรศัพท์อื่น ๆ (Facebook Messenger, WhatsApp, Viber) Telegram อนุญาตให้คุณดูว่าผู้ติดต่อรายใดของคุณที่กำลังใช้แอพอยู่ และน่าเสียดายที่แอพต้องเผชิญกับความท้าทายของผู้ใช้ที่เป็นอันตรายที่พยายามอัปโหลดหมายเลขโทรศัพท์จำนวนมากและสร้างฐานข้อมูลที่จับคู่กับ ID ของผู้ใช้เช่นนี้
โฆษกยังเน้นว่า ฐานข้อมูลที่รั่วไหลออกไปมีเพียงการเชื่อมต่อระหว่างหมายเลขโทรศัพท์และ ID ผู้ใช้ Telegram เท่านั้น และไม่มีรหัสผ่าน , ไม่มีข้อความหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ” Telegram อธิบายเพิ่มเติม
“หากคุณตั้งค่าในส่วนของ ใครที่สามารถเห็นหมายเลขโทรศัพท์ของเราได้เป็น ‘‘Nobody’’ จะมีตัวเลือกใหม่ปรากฏขึ้นด้านล่าง ซึ่งช่วยให้คุณควบคุมการมองเห็นข้อมูลของคุณจากผู้อื่น การตั้งค่าว่าใครสามารถค้นหาเราด้วยหมายเลขของเรา เป็นเฉพาะ ‘My Contacts’ จะทำให้แน่ใจได้ว่าจะไม่มีใคร สามารถเพิ่มหมายเลขของคุณเป็นผู้ติดต่อได้
อ้างอิง : LINK
