นักวิจัยบางคนสงสัยว่าอาจไม่ใช่การ ‘Blackmail’ ในเรื่องของค่าธรรมเนียมธุรกรรม ETH กว่า 80 ล้านบาท

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วชุมชน crypto พบว่ามีการจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสูงถึง 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 80 ล้านบาท ในหลายธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum ซึ่ง Vitalik Buterin ได้กล่าวว่าค่าธรรมเนียมที่ผิดปกตินี้ “จริง ๆ แล้วอาจเป็นแบล็กเมล์ ” แต่นักวิจัยบางคนก็ยังคงคิดว่าไม่น่าจะใช่

ทฤษฎีแบล็กเมล์

เรื่องราวเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เมื่อมีการจ่ายค่าธรรมเนียมจำนวน 2.6 ล้านดอลลาร์เพื่อย้าย ETH เพียง 0.55 ETH  และภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา ก็มีธุรกรรมที่สองตามมาโดยมีการโอน 350 ETH จากกระเป๋าเงินเดียวกันและจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนเงินเท่าเดิมที่ 2.6 ล้านดอลลาร์

ในวันถัดไป มีการการตรวจพบค่าธรรมเนียมการโอนที่ผิดปกติครั้งที่สาม แต่มาจากกระเป๋าเงินอื่น โดยธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่า 2,310 ETH หรือประมาณ $0.5 ล้านดอลลาร์ โดยจ่ายค่าธรรมเนียมไป 3,221 Eth

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน PeckShield บริษัทวิเคราะห์ของจีน สรุปว่าค่าธรรมเนียมจำนวนหลายล้านดอลลาร์นั้นเป็นฝีมือแฮ็กเกอร์ที่พยายามจะเรียกร้องเงินจากเว็บเทรดหลังจากสามารถเข้าถึงฟังก์ชันการทำงานของแพลตฟอร์มได้ ตามคำกล่าวของ PeckShield แฮ็กเกอร์กำลังขู่ว่าจะล้างกระเป๋าเงินของเว็บเทรดหากพวกเขาไม่จ่ายเงินตามคำเรียกร้อง

นักวิจัยของ ZenGo ไม่คิดอย่างนั้น

Alex Manuskin นักวิจัย blockchain จากบริษัท ZenGo ผู้ให้บริการกระเป๋า Cryptocurrency กล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีแบล็กเมล์

“ธุรกรรมอื่น ๆ ในกระเป๋ายังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ หากแฮ็กเกอร์ควบคุมกุญแจได้จริง ทำไมพวกเขา [องค์กรที่ถูกแฮ็ก] จึงยังคงใช้งานอยู่ตามปกติ?”

จากข้อมูลของ Manuskin หากแฮ็กเกอร์เข้าถึง key ที่อนุญาตให้สามารถส่งธุรกรรมไปยังที่อยู่ “ที่อนุญาต” (เช่นที่อยู่ของลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติเอาไว้ล่วงหน้า) คนที่ถูกแฮ็กควรหยุดการกระทำทุกอย่างและไม่ใส่เงินลงไปเพิ่มเติม”

“ถ้าสิ่งนี่เป็น bug ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น มันก็เป็นเรื่องที่บ้าบอมากๆ ” Manuskin กล่าวต่อไปโดยเสนอว่าเรื่องราวเบื้องหลังการทำธุรกรรมยังคงเป็นปริศนาสำหรับตอนนี้ 

“แต่ลองจินตนาการถึงผู้ให้บริการที่มีเงินทุนมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และไม่ได้สำรองข้อมูลสำหรับกุญแจของพวกเค้า และไม่คิดทำสิ่งใดที่จะหยุดการละเมิดนี้ก็เป็นเรื่องบ้าบอเช่นกัน”

นักวิจัย blockchain แนะนำว่า ที่อยู่นี้อาจเป็นของ “ผู้ให้บริการในเอเชียตะวันออก” เช่น Bithumb, OKEx, Coinone และอื่น ๆ

อ้างอิง : LINK

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป