ธนาคารกลางสหรัฐสาขาฟิลาเดลเฟีย (Federal Reserve Bank of Philadelphia) ได้เผยแพร่รายงานใหม่ที่เตือนเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)
ในรายงาน ระบุว่า – หลังจากการเปิดตัว CBDC – ธนาคารกลางจะกลายเป็น “ผู้ผูกขาดการฝากเงินและดึงดูดเงินฝากทั้งหมดออกจากภาคธนาคาร”
ซึ่งการผูกขาดนี้อาจเป็นอันตรายต่อ maturity transformation ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติของสถาบันการเงินที่กู้ยืมเงินในกรอบเวลาที่สั้นกว่าที่พวกเขาปล่อยกู้
Federal Reserve ยังระบุด้วยว่าหากการแข่งขันจากธนาคารพาณิชย์มีความบกพร่อง ธนาคารกลางอาจจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบต่อ maturity transformation
รายงานยังอธิบายว่า ธนาคารกลางไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและปัจจุบันยังต้องพึ่งพา การลงทุนจากธนาคารเอกชนเพื่อลงทุนในโครงการระยะยาว อย่างไรก็ตาม การศึกษาบันทึกว่าการดำเนินงานของ CBDC ไม่ควรไปขัดขวางการลงุทนของธนาคารเพื่อการลงทุน
ผู้เชี่ยวชาญยินดีต่อการพัฒนา CBDC
Marshall Hayner ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Metal กล่าวว่าเขาไม่เชื่อว่า CBDC จะเป็นอันตรายต่อธนาคารเอกชน
Metal กำลังสร้างแพลตฟอร์มธนาคารดิจิตอลที่ใช้ stablecoins ซึ่ง Hayner เชื่อว่าจะเป็นตัวตั้งต้นของ CBDC
“ผมไม่เชื่อว่า CBDC เป็นอันตรายต่อธนาคารเอกชน ผมพบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขา [CBDC] จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบธนาคารของสหรัฐอเมริกา และเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างการกำกับดูแลที่มีอยู่ในขณะนี้ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีการเรียกร้องให้มีการแสดงความคิดเห็นสาธารณะในหัวข้อการปรับปรุงกฎระเบียบเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ในด้าน ดิจิตอล”
Hayner กล่าวว่าธนาคารกลางควรออก retail CBDC เพื่อแทนที่สกุลเงิน Fiat แบบดั้งเดิมเนื่องจากเขาเชื่อว่า “ประสิทธิภาพและการปรับปรุงมีค่ามากกว่าผลกระทบในเชิงลบอย่างมาก”
“เมื่อความต้องกรใช้เงินสดลดลงอย่างรวดเร็ว ความต้องการแบบดิจิทัลสำหรับธนาคารสมัยใหม่และแพลตฟอร์มของ fintech ก็เกิดขึ้น ดังนั้นการสร้างระบบการชำระเงินที่แข่งขันได้และมีการบังคับใช้เรื่องการฟอกเงิน เราอาจกำลังได้เห็นจุดเริ่มต้นของดอลลาร์ดิจิทัล”
อ้างอิง : LINK