ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าเครื่อง ATM Bitcoin จะเผชิญกับกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับการต่อต้านการฟอกเงินทั่วโลก โดยประเทศต่าง ๆ รวมถึงแคนาดาและเยอรมนี
รายงานจาก CipherTrace มีการประมาณการว่า 74% ของการทำธุรกรรมจากเครื่อง ATM Bitcoin ในสหรัฐฯ ที่ถูกส่งออกจากประเทศในช่วง 2019 นอกจากนี้รายงานยังพบว่ามีถึง 88% ของเงินที่ส่งมาจากเครื่อง ATM Bitcoin ของสหรัฐฯในส่งไปยังเว็บเทรดในต่างประเทศ ตัวเลขดังกล่าวมีการเติบโตแบบทวีคูณในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นสองเท่าทุกปีตั้งแต่ปี 2017
ในการให้สัมภาษณ์กับ Law360 John Jeffries CTO ของ CipherTrace คาดการณ์ว่า ATM Bitcoin จะกลายเป็น “จุดสนใจในด้านกฎระเบียบที่มากขึ้น” โดยเน้นว่า “ความจำเป็นในการบังคับใช้กฎระเบียบและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ”
แคนาดาเข้มงวดเรื่องกฎของ Bitcoin ATM มากขึ้น
Francis Pouliot จาก Bitcoin Foundation Canada และ BullBitcoin เว็บเทรดในประเทศได้ทวีตว่า การออกกฎหมายใหม่จะส่งผลกระทบต่อบริษัทที่ให้บริการแลกเปลี่ยน crypto เป็นเงินสด โดยอ้างว่าผู้ประกอบการ Bitcoin ATM เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยขณะนี้ผู้ดำเนินการ Bitcoin ATM จะต้องรายงานธุรกรรมทั้งหมดที่มีมูลค่า $10,000 CAD หรือมากกว่า
These regulations will mostly affect cash-based businesses like Bitcoin ATMs. Most Bitcoin businesses already had strict KYC measure in place to prevent fraudulent transactions (chargebacks) or because they were required to do so by their banking or payment processing partners
— UNVACCINATED NAKED FACE (@francispouliot_) May 31, 2020
ตามข้อมูลของ CoinATMradar ปัจจุบันมี ATM crypto 778 เครื่องในแคนาดา ซึ่งคิดเป็นเกือบ 10% ของ 7,958 เครื่องทั่วโลก
ในเดือนกรกฎาคมปี 2019 ตำรวจสเปนยังชี้ให้เห็นถึง ATM crypto ว่าเป็นจุดบอดในกฎระเบียบของการต่อต้านการฟอกเงิน ( AML ) ของยุโรป หลังจากถูกใช้เป็นที่ฟอกเงิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐจากผู้ค้ายาเสพติดชาวโคลัมเบีย
German Financial Market Authority (BaFin) ก็ได้ดำเนินการกับ ATM Bitcoin ที่ไม่มีใบอนุญาตในเดือนมีนาคมปีนี้ โดยการปราบปรามดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการนำกฎระเบียบว่าด้วยการต่อต้านการฟอกเงินใหม่มาปิดช่องโหว่ในกฎข้อบังคับด้าน cryptocurrency ของเยอรมนีที่มีอยู่
อ้างอิง : LINK