เมื่อช่วงสายของวันนี้ มีผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้โพสเตือนถึงเรื่องการนำที่ดินมาฝากขาย โดยยินดีรับเป็น Bitcoin จำนวน 850 BTC แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาจะซื้อขายกันจริง ๆ กลับกลายเป็นที่ดินที่มีปัญหา จนทำให้ต้องเสียเครดิตไปมากมาย และทำให้เรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ไม่รู้กฎหมายได้อย่างดี
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยผ่านเฟสบุ๊คของ Minyarinn Chaotrakul โดยผู้เสียหายได้เล่าว่ามีผู้มาติดต่อให้ช่วยประกาศขายที่ดินเปล่าแปลงสวยแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง มูลค่าสูงถึง 220 ล้านบาท และยินดีรับเป็น Bitcoin
ผู้เสียหายเล่าต่อว่า ผู้มาติดต่อนั้นไม่ยอมเจอนายหน้า และไม่ได้มีการเซ็นต์สัญญาก่อน กล่าวแต่เพียงว่าหาคนซื้อได้เมื่อไหร่ค่อยมา จากนั้นผู้เสียหายจึงได้ทำการติดต่อหานายทุนที่มีความสนใจในที่ดินดังกล่าวได้ แต่เมื่อไปตรวจสอบกับกรมที่ดินกลับพบว่าที่ดินที่ฝากขายนั้นเป็น ที่ดินประนอมหนี้ และ ไม่อนุญาติให้ทางเจ้าของที่นำไปทำธุรกรรมใดๆ
และจากปัญหาดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถดำเนินการซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ ซึ่งทางผู้เสียหายยอมรับว่าสะเพร่าและใจอ่อน เนื่องจากเจ้าของที่ดินที่มาติดต่อมีการอ้างถึงสุขภายของบิดาของตนมาอ้าง และเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้เสียเครดิตไปด้วยเช่นกัน รวมถึงเสียเงินไปกว่า 200,000 บาท
อย่างไรก็ตามผู้เสียหายกล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่เคสนี้ตอนเริ่มดำเนินการ แล้วเราไปโฟกัสกับทางเจ้าที่พร้อมซื้อด้วยเงินสดเสียก่อน เพราะถ้าหากบ้าจี้ไปตามหาคนที่จะซื้อด้วย BTC โดนโกงโดนเบี้ยว จะตามยากกว่าเงินสดอีกเยอะ”
สุดท้ายผู้เสียหายอยากฝากเตือนว่า “เวลาจะซื้อขายอะไรก็ตาม โดยเฉพาะของมูลค่ามากหรือของชิ้นใหญ่ ผู้ที่มีความจริงใจที่จะขายและมีของในมือจริง การให้เกียรติ ความยินดีให้ข้อมูลและติดต่อประสานงาน จะเป็นอย่างง่ายดายมาก แตกต่างกับพวกพยายามหมกเม็ดอย่างสิ้นเชิง”