DeeMoney คือบริษัท non-bank แห่งแรกของประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยีบล็อคเชนของ RippleNet มาช่วยให้ดำเนินการโอนเงินไปสู่สถาบันการเงิน 300 แห่งทั่วโลกได้ง่ายขึ้น
DeeMoney บริษัทฟินเทค ผู้เชี่ยวชาญในด้านการโอนเงินข้ามประเทศ ประกาศเปิดตัวบริการโอนเงินผ่านระบบของ Ripple ผู้ให้บริการโซลูชั่นบล็อคเชนสำหรับการชำระเงินทั่วโลกแล้ววันนี้ ผ่านเครือข่าย RippleNet เครือข่ายการโอนเงินระดับโลกของ Ripple ที่มีมากกว่า 300 สถาบันการเงินทั่วโลก โดยปัจจุบัน DeeMoney เป็นบริษัท non-bank แรกในประเทศไทยที่ได้ใช้เทคโนโลยี RippleNet ในการให้บริการการโอนเงินข้ามพรมแดนที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยค่าบริการที่ถูกกว่าเจ้าอื่นในตลาดแล้ว
DeeMoney ใช้เทคโนโลยีของ RippleNet ในการรับเงินที่โอนเข้ามาสู่ประเทศไทยผ่านช่องทางการชำระเงินที่สำคัญจากประเทศเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ อิสราเอล รวมไปถึงภูมิภาคตะวันออกกลางและอ่าวเปอร์เซีย โดยในปัจจุบันมีคนไทยกว่าล้านคนที่ทำงานอยู่ทั่วโลกที่จำเป็นต้องโอนเงินกลับบ้าน
DeeMoney สามารถนำเงินเข้าบัญชีในประเทศไทยทุกธนาคารได้ในวันเดียวกันแล้ว เป็นช่องทางให้กลุ่มหุ้นส่วนธุรกิจการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มียอดการโอนสูงทำธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้นในประเทศไทย ด้วย RippleNet กระบวนการการโอนเงินสำหรับการส่งเงินของสถาบันการเงินที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอัตราแลกเปลี่ยนที่ตำ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สำหรับเฟสสองนั้น DeeMoney จะยกระดับเทคโนโลยีของ RippleNet ในการโอนเงินออกจากประเทศไทยและในการคัดสรรหุ้นส่วนที่เหมาะสมที่สุดในการโอนเงินออกไปยังประเทศเป้าหมายต่างๆ
“ปัจจุบัน Ripple อยู่ในแถวหน้าของด้านเทคโนโลยีและการวางระเบียบปฏิบัติต่างๆ เทคโนโลยีของ Ripple เป็นระบบอัตโนมัติระบบเดียวที่สื่อสารกับคู่ค้า 300 เจ้าผ่านวิธีเดียวกันทั่วโลก ทีมเทคโนโลยีของเราจึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการได้ง่ายขึ้น ลดการใช้แรงงานและการขัดขวางกระบวนการปกติ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถส่งต่อความประหยัดนี้ไปสู่ผู้บริโภคได้” คุณอัศวิน พละพงศ์พานิชประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดี มันนี่ กล่าว “เราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับ Ripple เพื่อทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในระบบการเงินในประเทศไทย โดยยกระดับประสิทธิภาพและการเข้าถึงระบบการโอนเงินข้ามพรมแดนทั้งเข้าและออกจากประเทศ”
“การปฎิวัติของการธนาคารยุคดิจิทัลได้รับการตอบรับที่ดีมากในประเทศไทยและ DeeMoney เป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ในฐานะ non-bank องค์กรแรกในประเทศไทยที่ใช้ RippleNet, DeeMoney สามารถปฎิรูปขอบเขตของกฎในการทำธุรกรรมธนาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรารวมถึงค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามประเทศที่ราคาต่ำกว่าคู่แข่งนั่นเอง ประเทศไทยได้ประกาศความมุ่งมั่นในการเป็นประเทศอัจฉริยะหรือ Smart Nation ซึ่งเรามีความภาคภูมิใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของกำลังสำคัญนี้ผ่านการร่วมมือกับ DeeMoney” คุณมาร์คัส เทรเชอร์ รองประธานกรรมการอาวุโสฝ่าย Customer Success กล่าว
เกี่ยวกับ DeeMoney
DeeMoney มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินการโอนเงินจากประเทศไทยสู่ประเทศอื่นๆทั่วโลก – ด้วยราคาและเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่งของกระบวนการดั้งเดิม วิสัยทัศน์ของบริษัทคือต้องการที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจฟินเทคเพื่อการจ่ายเงินข้ามพรมแดนที่เข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้างขึ้น DeeMoney สามารถทำทุกอย่างนี้ได้โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถใช้ได้ผ่านโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้น เพื่อสนับสนุนการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งรอบโลกที่เต็มไปด้วยพันธมิตรในระดับภูมิภาคที่ให้ความมั่นใจในการโอนเงินระหว่างประเทศจากประเทศไทยได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส
DeeMoney เป็นบริษัทในประเทศไทยรายแรกที่นำเสนอค่าธรรมเนียมคงที่ที่ 150 บาท เพื่อให้ผู้รับได้รับเงินเต็มจำนวนและไม่มีการหักค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ด้วยการเอากำไรที่ต่ำถึง 1-2% DeeMoney เสนออัตราแลกเปลี่ยนซึ่งมักจะต่ำที่สุดในประเทศ
DeeMoney เป็นบริษัทแห่งแรกในประเทศไทย นอกเหนือจากธนาคารที่ได้รับการอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ดำเนินการโอนเงินระหว่างประเทศและบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริษัทแม่ของ DeeMoney ที่ใช้ชื่อว่า SawasdeeShop ได้รับรางวัล Non-Bank International Money Remittance Service License, Money-Exchange License และ the E-Payment License จากธนาคารกลางในปี พ.ศ. 2560
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปชมได้ที่: www.deemoney.com
เกี่ยวกับ Ripple
Ripple เปิดช่องทางให้ทำการชำระเงินได้จากทุกที่ ทุกทาง และทุกคนโดยใช้พลังของบล็อคเชน ด้วยการเข้าร่วมเครือข่ายระดับโลกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องอย่าง RippleNet สถาบันการเงินสามารถทำรายการธุรกรรมการจ่ายเงินจากลูกค้าจากที่ใดก็ได้ในโลกได้อย่างทันที เชื่อถือได้ และคุ้มราคา ธนาคารและผู้ให้บริการการชำระเงินสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิตัลสกุล XRP ในการช่วยลดต้นทุนและเข้าถึงตลาดใหม่ๆ Ripple มีลูกค้ากว่า 300 รายทั่วโลกและมีสำนักงานใน ซานฟรานซิสโก, วอชิงตัน ดีซี, นิวยอร์ก, ลอนดอน, มุมไบ, สิงคโปร์, เซา เปาโล, เรคยาวิก และดูไบ