ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี่นั้น Exchange ถือเป็นกลไกสำคัญที่ดึงดูดลูกค้าและผู้ใช้งานจำนวนมากรวมไปถึงเป็นเส้นทางการทำกำไรของนักลงทุน ซึ่งในช่วงเมษายน 2018 จำนวน Exchange นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาด เกิน 500 Exchange แต่ในปัจจุบัน มีจำนวน Exchange ถึง 417 Exchange ทั่วโลก และ 30 อันดับแรกของ Exchange ชั้นนำนั้นมีส่วนแบ่งตลาดไปถึง 82% จากปริมาตรการซื้อการขาย
สืบเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด ทั้งในด้านนวัตกรรม , เทคโนโลยี , ต้นทุน หรือ ค่า Maintenance ต่างๆ แต่ Exchange ก็มีผู้เล่นหน้่าใหม่เสมอ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Exchange ใหม่ๆ อย่าง MXC หรือ BiKi ได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและน่าประทับใจทั้งในด้านของ ประสิทธิภาพ และ การให้บริการ ซึ่งนี้เป็นจุดที่ทำให้ Exchange หลายๆที่เริ่มมีการปรับตัวและเปลี่ยนการให้บริการของบตัวเอง
ทาง ChainUP ได้ให้บริการในด้าน Blockchain และการให้บริการที่คอยสนับสนุนการเติบโตของ Exchange ต่างๆ
ความปลอดภัย – หัวใจหลักของ Exchanges
จากสถิติพบว่า Exchange ทั่วโลกนั้นสูญเสียเงินไปมากถึง 2 พันล้านดอลลาร์ จากการถูกแฮ็คหรือโจรกรรมข้อมูล ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ในการพัฒนา Exchange เพื่อให้สินทรัพย์ของผู้ใช้งานนนั้นปลอดภัย โดยในด้านความปลอดภัยนั้นรวมไปถึง การทำเหรียญหายหรือถูกขโมย และยิ่งไปกว่านั้นบรรดา Exchange ใหม่ๆ นั้นก็มีคุณภาพการรักษาความปลอดภัยที่ต่ำ และยังไม่มีประสบการณ์ในอุสหกรรมอีกด้วย โดยเรื่องความปลอดภัยนั้นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้งานหน้าใหม่ๆไม่สนใจในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่
ChainUP จะเสนอวิธีแก้ปัญหาให้กับเว็บเทรดในสถานการณ์นี้โดยการให้บริการอย่างมืออาชีพที่มีข้อได้เปรียบทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง ช่วยในการพัฒนาและการทำงานอย่างปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้เกิดความสบายใจ
ระบบการเทรดที่ควบคุมความเสี่ยง
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ ChainUP ก่อตั้ง ได้มีลูกค้ามากกว่า 300 Exchange และยังไม่เคยมีปัญหาด้านความปลอดภัยแม้แต่น้อย
สำหรับการทำธุรกรรมบน Exchange ChainUP นั้นมีระบบการควบคุมความเสี่ยง และคอยจัดการความเสี่ยงของนักลงทุน โดยได้มี 3 ปัจจัยสำคัญในการจัดการระบบ การดูแลระบบความปลอดภัยแบบ Real time , การบล็อกการถอน , การป้องกันการโจมตีแบบ DDoS , การเคลีย Traffic และระบบรักษาความปลอดภัยมากกว่า 30 อย่าง
ChainUp นั้นมีระบบการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานและการสอดส่องผู้ใช้งานในหลายมิติ ร่วมไปถึง การหาข้อสังเกตุการพฤติกรรมผู้ใช้งานที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมทั้งยังการป้องกันระบบจากภายในและภายนอก
ChainUP นั้นยังมีข้อมูลเชิงลึกและความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัท Blockchain และบริษัทด้านความปลอดภัย ชั้นนำ้ทั่วโลก ซึ่งมีทั้งการตรวจสอบระบบภายในสำหรับผู้ใช้งานและเทคโนโลยีต่างๆที่มีความลำ้สมัย อีกทั้งยังมี ระบบรักษาความปลอดภัยอีกมากมายทั้งในด้าน Coding , Security risk , Hacking risk และร่วมไปถึงด้าน Smart Contract
โดยทาง ChainUP นั้นได้มีระบบการเข้าถึงและระบบการยืนยันตัวตนในหลายขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยระดับสูง อย่างเช่น การกรอกรหัสผิดในขณะล็อคอินหลายๆครั้ง หรือพฤติกรรมที่ผิดแปลกจากผู้ใช้งานทั่วไป
สำหรับระบบการควบคุมความเสี่ยงและรักษาความปลอดภัย ChainUP ได้ดูแลและให้บริการมามากกว่า 2 ปี และมีลูกค้ากว่า 300 รายทั่วโลก และยังไม่เคยมีรายใดที่มีประวัติเสียหายด้านความปลอดภัย
ในด้านเทคโนโลยีนั้น ChainUP มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยพร้อมกับทีมงานจากบริษัทระดับโลกมากมายอย่าง Baidu , Alibaba และ Tencent และ บริษัทด้าน Blockchain ที่คอยให้บริการในตลาด
สถาปัตยกรรมเทคโนโลยีที่สามารถขยายตัวได้และมีประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญของภาพรวมของสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีนั้น ต้องสามารถขยายตัวได้และมีประสิทธิภาพ สถาปัตยกรรมเทคโนโลยีจะต้องสามารถบรรลุผลการขยายตัวในแนวนอนอัตโนมัติได้ตามความต้องการทางธุรกิจ ความสามารถในการขยายตัวจะต้องสามารถกำหนดค่าได้สูง เพื่อรองรับการพัฒนาขั้นที่ 2 ของลูกค้า ในที่สุดการจับคู่ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการทำธุรกรรมจะไม่ถูกบล็อค
Matching engine ของ ChainUP ใช้หน่วยความจำ circular queue ที่ไม่มีการล็อค เพื่อเข้าถึง TPS นับล้าน (จำนวนธุรกรรมที่สามารถทำงานได้ใน 1 วินาที) การคงอยู่ของ asynchronous data ด้วยการชำระสูงสุด 10,000 ครั้งต่อวินาที และมีกลไกการกู้คืนความเสียหายที่สมบูรณ์แบบ ในกรณีที่ระบบเกิดการขัดข้อง จะสามารถทำการกู้คืนได้ภายในไม่กี่วินาที
ในแง่ของบริการ wallet นั้น ChainUP มีโครงสร้างและความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัย เสถียรภาพ และประสิทธิภาพของ wallet system สำหรับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจนั้น จะรวมไปถึงการตรวจสอบย้อนกลับ การกระทบยอดบัญชี การตรวจสอบการถอน การสแกนภายนอก และการประมวลผลเนื้อหาอื่นๆ ผ่านโครงสร้างเครือข่าย การดำเนินงานและมาตรการบำรุงรักษา เช่น รายละเอียดการใช้งาน ฐานข้อมูลและการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ จะได้รับการพัฒนาความปลอดภัยความมั่นคงของระบบ และมีความสามารถในการกู้คืนในกรณีที่เกิดความเสียหายในระบบ
ในขณะที่ exchange เกิดการขัดข้อง และผลกระทบต่อความปลอดภัยอาจเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระบบการควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างครอบคลุม และสถาปัตยกรรมด้านเทคนิคที่แข็งแกร่งของ ChainUP จะช่วยให้ลูกค้าพบปัญหาและบล็อก รวมถึงแก้ไขความเสี่ยงในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งทำให้เกิดความมั่นใจว่าสินทรัพย์ของผู้ใช้จะไม่ออกระบบไป โดยช่วยทำให้ลูกค้าเกิดการสูญเสียน้อยที่สุด
สนับสนุน Exchange ขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อการพัฒนาความก้าวหน้า
“ตัวเลขทั้งหมดที่แสดงในการแลกเปลี่ยนผ่านตัวกลาง (centralized exchange) มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเงินในระบบ” จากการกล่าวของ Winter ผู้ก่อตั้ง BiKi.com ว่า “หากมีข้อผิดพลาด จะทำให้เกิดการสูญเสียเป็นอย่างมาก ดังนั้น ระบบการจับคู่ ระบบการหักบัญชี ระบบกระเป๋าเงิน และเครื่องมือทางการตลาด จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ exchange ทีมงานด้านเทคนิคจำนวนกว่าหลายร้อยคนของ ChainUP และประสบการณ์จากผู้ใช้หลายร้อยคน อยู่ในบทบาทที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในกระบวนการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเรา รวมถึงการดำเนินงานที่ผ่านการคัดกรองของเรา ทำให้ BiKi สามารถลุกขึ้นมาฝ่าฟันวิกฤตการณ์ และกลายเป็นหนึ่งใน exchange ชั้นนำของโลก”
“คนมืออาชีพ ทำในสิ่งที่เป็นมืออาชีพ” คือปรัชญาของ ChainUP เพื่อช่วยให้ exchange ประสบความสำเร็จอย่างถึงที่สุด BitWind เป็นระบบสภาพคล่องที่เปิดตัวโดย ChainUP ซึ่งรวมการซื้อขายเชิงลึกของมากกว่า 200 cryptocurrency exchanges จาก exchange ระดับชั้นนำของโลก โดยมีการเสนอ exchange ด้วยราคาที่ดีที่สุด ค่าความต่างของราคาซื้อกับราคาขายต่ำสุด และสภาพคล่องที่ดีที่สุด ช่วยให้ exchange สามารถแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและเพิ่มปริมาณธุรกรรม และประสบการณ์การซื้อขาย
ดังคำกล่าวที่ว่า “การแข่งขันก่อให้เกิดนวัตกรรม” นั้น การแข่งขันที่รุนแรงมีบทบาทเชิงบวกในการพัฒนาอุตสาหกรรม exchange เมื่อมีผู้เข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมมากขึ้น จะสามารถชี้นำสู่ทิศทางที่หลากหลายและดีต่อการพัฒนา
บริการเทคโนโลยี blockchain โดย ChainUP นั้น ไม่เพียงแต่ให้การสนับสนุนทางเทคนิคที่แข็งแกร่งสำหรับ new exchanges เท่านั้น แต่ยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเทคนิคและการบำรุงรักษาที่สูงอีกด้วย ทำให้ทีมสามารถมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการของ exchange ได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนต่อความปลอดภัยโดยรวมของอุตสาหกรรม และช่วยให้นักลงทุนได้ลงทุนด้วยความอุ่นใจอีกด้วย
ที่มา : LINK