เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes Benz) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ได้ร่วมมือกับ Circulor บริษัททางด้านบล็อคเชน โดยมุ่งเป้าไปที่การนำบล็อคเชนมาใช้ในการติดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนและในกระบวนการได้มาของแร่ Cobalt ที่นำมาใช้ผลิตแบตเตอรี่
ตามการแถลงข่าววันที่ 30 มกราคม โครงการของ Mercedes และ Circulor มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในรถยนต์รุ่นต่อไป โดยบริษัทจะปรับใช้ blockchain เพื่อติดตามการปล่อยก๊าซที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและการติดตาม supply chains ที่ซับซ้อนของการผลิตเซลล์แบตเตอรี่
เมอร์เซเดส ตั้งใจที่จะใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ในระหว่างโครงการนี้เพื่อพัฒนารถยนต์ที่ปล่อยก๊าชเรือนกระจกเท่ากับศูนย์
โครงการจะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาแร่ โคบอลต์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งโดยส่วนใหญ่ของการผลิตโคบอลต์นั้นมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเป็นประเทศที่ถูกการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการขุดแร่โคบอลต์ที่ผิดจรรยาบรรณ จากการใช้งานแรงงานเด็ก โดย องค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่ามีเด็กจำนวน 168 ล้านคนทั่วโลกที่ต้องมาทำงาน โดยมีเด็กประมาณ 40,000 คนทำงานในเหมืองแร่โคบอลต์ในคองโก นั่นหมายความว่าการได้มาของแร่เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งบริษัทต่างๆจำเป็นจะต้องทราบว่าวัสดุเหล่านั้นมาจากที่ใด
การใช้บล็อคเชน จะช่วยให้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทราบว่าบริษัทพันธิมิตรของตนนั้นปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสิทธิมนุษยชน
Mercedes ไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่หันมาใช้เทคโนโลยี blockchain ในประเด็นเรื่องการจัดหาผลิตภัณฑ์ ทางด้านวอลโว่เองก็ได้ร่วมมือกับ Circulor ในการใช้บล็อคเชนติดตามวัตถุดิบกลับไปยังแหล่งผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับรถยนต์วอลโว่ด้วยเช่นกัน
ที่มา : LINK