“ตอนเราทำธุรกิจนี้เราทำได้เป็นเจ้าแรกในไทย แต่เราไม่ได้แข่งขันแค่ในไทย” กล่าวโดย ปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งเว็บเทรดคริปโต Satang Pro

พรรคประชาธิปัตย์ (15 มกราคม 2562) มีรายงานว่าวันนี้ ทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการจัดงานใหญ่เพื่อเปิดตัวโครงการ “เรียนจบ พบงาน” โดยมีแอพพลิเคชั่นเชื่อมโยงงาน ที่ฝึกงานและการยกระดับทักษะอาชีพให้สอดคล้องกับยุค Digital Transformation ได้ง่าย ๆ ผ่าน Line ‘@DemTum’ ขึ้นมาให้กับคนไทยทุกคน เพราะตระหนักถึงปัญหาในการขาดแรงงานฝีมือในเมืองไทย ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ต่อระบบเศรษฐกิจไทยในอนาคต

เปิดตัวโครงการยิ่งใหญ่ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

โครงการ ‘เรียนจบ พบงาน’ ได้รับการตอบรับจากผู้คนในหลากหลายวงการที่พร้อมมาร่วมแชร์ประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจในการปรับตัวเพื่ออยู่ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงมากมาย อาทิ เฌอปราง แก้ว ตาหวาน BNK48 / อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับหนังพันล้าน / ตู่ ภพธร นักร้อง นักแสดง นักแต่งเพลง / โด่ง พีรพงศ์ ผู้ก่อตั้ง Origin Property / เมย์ ผู้ก่อตั้ง AfterU ร้านขนมชื่อดัง / ก้อง พณชิต นายกสมาคม Startup / เอ็ม ผู้ก่อตั้ง CareerVisa Thailand แนะแนวอาชีพมือโปร / หนึ่ง ปรมินทร์ อินโสม coding ตัวท็อป ผู้ก่อตั้ง Satang Pro พร้อมด้วยผู้บริหาร / เจ้าของกิจการ / HR บริษัทชั้นนำในสายอาชีพวิศวกร-ก่อสร้าง-ธนาคาร-โบรกเกอร์ โลจิสติกส์ ค้าปลีก การตลาด ท่องเที่ยว ดิจิตอล AI พลังงาน สื่อสารโทรคมนาคม มีเดีย/PR ฯลฯ อีกมากมาย

บทบาทของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยในเวทีเสวนา

คุณหนึ่ง ปรมินทร์ อินโสม ได้แชร์มุมมองของการเป็นผู้ประกอบการกระดานซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในไทยให้กับน้องๆที่สนใจธุรกิจนี้ว่า “น้องๆที่คิดจะเข้ามาในวงการนี้ต้องรู้จักพลิกแพลงได้ สิ่งที่เรียนมาไม่ควรใช้เป็นสูตรสำเร็จ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนเราทำธุรกิจนี้ก็คือเราทำได้เป็นเจ้าแรกในไทยก็จริง แต่เราไม่ได้แข่งขันแค่ในประเทศไทย เราดูต่างชาติที่จะเข้ามาแข่งกับเราด้วย แล้วเราจะแข่งกับต่างชาติที่มีเงินทุนหนากว่าเราได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ในตำรา เราจะต้องคิดพลิกแพลงสถานการณ์เพื่อรับมือให้ได้”

พิธีกรได้ถามถึงวิธีการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว คุณหนึ่ง ได้กล่าวเสริมว่า “ก่อนผมจะมาทำ Satang Pro ผมก็ทำเหรียญ Zcoin มาก่อน ซึ่งปัจจุบันเป็นเหรียญอันดับ 80 ของโลก ตอนนั้นคนทั่วโลกก็คิดเหมือนกันหมด ทุกคนพยายามทำเหรียญ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ เพราะไอเดียใครๆก็คิดได้ แต่พอทำจริงๆมันจะเป็นอีก Story หนึ่งเลย ว่าจะต้องทำอย่างไรให้สำเร็จ สมมติว่าผมสำเร็จวันนี้ไม่ใช่ว่าอีก 5 ปีข้างหน้าผมจะสำเร็จ นั่นหมายความว่า คนเราต้องพร้อมรับการเปลี่ยนตลอดเวลา ต้องติดตามทั้งข่าวทั่วโลกและสิ่งที่ไม่อยู่ในหนังสือ”

คุณหนึ่งได้ฝากข้อคิดไปถึงน้องๆทุกคนที่กำลังจะมีชีวิตเข้าสู่วัยทำงานว่า “ถ้าคุณจะทำอะไรที่อยากทำ ขอให้งานที่คุณทำเป็น 1% ของโลก เพราะการที่คุณเป็น 1% ของโลกได้ เงินก็มา ชื่อเสียงก็มา แล้วคุณจะทำงานนั้นได้อย่างมีความสุข”

เฌอปราง BNK48 ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องความคิดสร้างสรรค์เพิ่มเติมว่า “เราเรียนเพื่อเราจะรู้บางอย่างในอนาคต เราสนใจอะไร เราเรียนรู้สิ่งนั้น พยายามพรีเซ็นต์ตัวตนในสิ่งที่เราสนใจ ส่วนตัวเฌอปรางชอบวิทยาศาสตร์และเชื่อว่าเทคโนโลยีจะต้องอยู่รอบตัวเรา ไม่ต้องรู้ลึกทุกเรื่อง อย่างเรื่องเงินดิจิทัล เรื่อง AI เราก็พอรู้บ้างเล็กน้อย เพราะล้วนเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเราเข้ามาทุกทีแล้ว เราเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีพวกนี้เพื่อปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยใหม่นี้ เพราะฉะนั้นความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนก็คือความสนใจและความชอบของแต่ละคนด้วย”

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แม่ทัพใหญ่ของโครงการ ทุ่มเทและทุ่มทำอย่างตั้งใจ

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังขาดแรงงานฝีมือ และการสร้างทรัพยากรมนุษย์จึงไม่ใช่งานของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการเมือง ภาคประชาชนและ NGOs ที่จะต้องร่วมมือกันช่วยสร้างคนที่มีคุณภาพ ซึ่งในที่นี้ไม่ใช่แค่แรงงานยุคเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรดานักศึกษาจบใหม่ที่พบปัญหาเดียวกัน จากระบบการศึกษาเดิมที่อาจจะขีดกรอบให้เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้รับประสบการณ์ที่ควรจะเป็นในโลกของงานยุคนี้ เฉกเช่นเดียวกันกับในหลายบริษัทเองก็ขาดแรงงานฝีมือดี โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่จะทำให้ระบบนิเวศน์ของตลาดงานไทยเดินหน้าไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้ทุกวันนี้โลกจะถูกเขย่าด้วยเทคโนโลยี แต่โลกยังต้องขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ เพราะถึงแม้เทคโนโลยีจะเป็นตัวช่วยให้เกิดประสิทธิภาพและผลิตผลใหม่ ๆ ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่หุ่นยนต์ยังไม่สามารถชนะคนได้ในเร็ววัน เช่น วิชาชีพที่ต้องใช้ความเข้าใจ ความซับซ้อนทางความคิด การใช้หัวใจในการบริการ เช่น อาชีพที่ปรึกษาการลงทุน อาชีพงานบริการต่าง ๆ และอีกหลากหลายอาชีพที่ต้องใช้ Human Touch หรือการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับบุคคล ซึ่งต่อให้ในอนาคตหุ่นยนต์จะทำได้ แต่ก็ไม่มีเสน่ห์เท่ามนุษย์

โครงการ “เรียนจบ พบงาน” โดยทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดกว้างแก่น้อง ๆ นักศึกษาทั่วประเทศ และรวมถึงอีกหลายท่านที่กำลังประสบภาวะตกงาน หากต้องการเดินหน้าต่อในยุค 4.0 สามารถเข้าใช้บริการ ‘@DemTum’ ในแอพลิเคชั่น LINE ได้แล้วตั้งแต่วันนี้

เรียนจบ แล้วพบงาน ไม่ตกงาน!!

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

admin

ข่าวต่อไป