บริษัท Money on Chain กำลังย้ายไปยังอุรุกวัย เพื่อเปิดตัวแพลตฟอร์ม DeFi ที่อิงจาก bitcoin sidechain Rootstock ( RSK ) ด้วยการเลียนแบบ MakerDAO ของ Maker Foundation
ในขณะที่โครงการอื่น ๆ เช่น Cross-Chain Working Group กำลังค้นหาวิธีในการ wrap bitcoin ด้วยโทเค็นของ ethereum สำหรับใช้ใน Defi หรือให้บริการ DAI loans ที่มีหลักประกันเป็น bitcoin แต่ RSK โมเดลต้องการใช้งานโปรโตคอลโอเพ่นซอร์สที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Bitcoin
Max Cajurzaa ผู้ร่วมก่อตั้ง Max Money กล่าวว่า “เราจะอนุญาตให้โครงการอื่นสร้างร DeFi ecosystem บน bitcoin” นอกจากนั้นยังกล่าวว่า “เรากำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อบน Money on Chain แต่ระบบนิเวศจะมีการพัฒนาขึ้น เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ MakerDAO บน ethereum”
Diego Gutierrez Zaldivar ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ IOVLabs RSK กล่าวว่า “ทีมของเขากำลังเจรจากับ MakerDAO ในการเป็นสะพานระหว่างแพลตฟอร์ม ethereum และโครงการ sidechain ใหม่นี้”
เพื่อให้ชัดเจนลงไป โครงการ RSK ไม่ได้ “อิงจาก bitcoin” แต่มันผูกติดกับ bitcoin โดย RSK sidechain จะแยกตัวออกจาก bitcoin blockchain และสร้าง bitcoin IOUs ควบคุมพลังที่ผลิตโดยผู้ขุด bitcoin แต่ใช้การแยกต่างหากเพื่อจัดการ sidechain
Zaldivar กล่าวว่ายังมีอีก 15 โครงการใน RSK federation ซึ่งลดลงจาก 25 จากสมาชิกผู้ก่อตั้งในปี 2016 แม้เขาจะปฏิเสธที่จะระบุชื่อ ถ้าหาก federation members ทำการปิดเซิร์ฟเวอร์ด้วยโหนดในตัว RSK protocol จะทำให้ไม่สามารถแลกเปลี่ยน bitcoin IOUs ไปเป็น bitcoin ที่แท้จริงได้ อย่างไรก็ตามสมมติว่าสถานการณ์ไม่เกิดขึ้น RSK DeFi model จะเป็นสะพานสำหรับล็อคค่า bitcoin และการกระจายความเสี่ยง
“ มันสำคัญที่สุดที่เราสามารถใช้ bitcoin เป็นหลักประกัน” Cajurzaa กล่าว
โทเค็นที่มีมากมาย
เช่นเดียวกับ MakerDAO ระบบนิเวศ Money on Chain เกี่ยวข้องกับโทเค็นจำนวนมาก
มี Dollar on Chain (DoC) โทเค็นสกุลเงินดอลลาร์ที่สนับสนุนโดย bitcoin ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก DAI BitPRO (BPRO) ซึ่งใช้สำหรับ “passive income” โดยจะแสดงค่าธรรมเนียม bitcoin ที่เก็บจากผู้ใช้ระบบ และเงินใน Chain tokens (MoC) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีการ voting tokens คล้ายกับ MKR ของ Maker Foundation
Cajurzaa ปฏิเสธที่จะระบุว่าใครคือนักลงทุนที่ถือ governance tokens เหล่านี้อยู่ โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการขายโทเค็น MoC มากขึ้นในปี 2020 โดยรายละเอียดจะประกาศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในขณะเดียวกัน Money on Chain กำลังเปิดตัวระบบ DeFi พร้อมด้วยโทเค็น DoC และ BPRO
“เมื่อคุณสร้าง DoC คุณสามารถพูดได้ว่าคุณกำลังขาย bitcoin ของคุณสำหรับ DoC เพราะคุณไม่ได้รับ bitcoin จำนวนเท่ากัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน” Cajurzaa กล่าว “ในกรณีของ BPRO นั่นอาจถือว่าเป็นเงินกู้… แต่สิ่งที่เหนือกว่าของ DoC คือคุณสามารถให้ยืมเงินกับคนอื่นเพื่อทำการค้าได้”
เป้าหมายของการออก stablecoins ที่ผูกกับเงิน fiat กับสกุลเงินในละตินอเมริกาที่เอาอย่าง DoC มากขึ้น คือการทำให้สกุลเงินดิจิตอลนั้นง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจที่จะยอมรับโดยไม่คำนึงถึงความผันผวนของ bitcoin ตัวอย่างเช่น dexFreight ที่จะทำงานกับ DoC
Hector Hernandez ผู้ร่วมก่อตั้ง DexFreight กล่าวว่า “การมี stablecoin ที่ค้ำประกันด้วย bitcoin จะช่วยให้เราสามารถสร้างโซลูชั่น DeFI สำหรับ supply chain และในที่สุดก็จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของการยอมรับการใช้งานโดยรวม”
แตกต่างจากระบบ MakerDAO ที่ผู้คนยึดหลักประกันกับ smart contract และหวังจะได้รับมันกลับมา แต่ในระบบ RSK system ผู้คนคาดหวังว่าจะได้รับ bitcoin กลับมามากแค่ไหนกับโทเค็นใหม่ที่สามารถซื้อได้ ซึ่งนั่นอาจหมายถึงได้ bitcoin มากขึ้นถ้าพวกเขาแลกเปลี่ยนโทเค็นอย่างได้เปรียบ” Zaldivar กล่าว
เช่นเดียวกับโครงการ Uniswap ของ DeFi , Money on Chain จะเป็นประตูสู่ protocol geo-blocks jurisdictions ประกอบไปด้วยสหรัฐอเมริกา อินเดีย จีน และอียิปต์ และท้ายที่สุดการออกโทเค็นที่โฆษณาว่าเป็น “passive income” จากระบบเฉพาะที่ดำเนินการโดยหน่วยงานเหล่านี้อาจดำเนินการตามข้อกำหนดด้านหลักทรัพย์ในทวีปอเมริกาเหนือ
Zaldivar กล่าวว่า การเริ่มต้นด้วยข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์เหล่านี้จะเป็นผลดีเพราะระบบถูกออกแบบมาสำหรับชาวละตินอเมริกา “เราต้องการให้ระบบนี้ตอบสนองความต้องการของผู้คนที่ไม่ได้รับบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมในละตินอเมริกา” Zaldivar กล่าว
เข้าร่วมกลุ่ม RSK Thailand
FB: https://www.facebook.com/groups/564262430779296/
Telegram: https://t.me/rskthailand
ที่มา : LINK