เมื่อวันที่ 22 พ.ย. หน่วยงานในเซินเจิ้น มีการระบุว่าตรวจพบบริษัท Cryptocurrency ทั้งหมด 39 แห่ง ซึ่งเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ และโครงการหลอกลวง ที่ใช้คริปโตมาบังหน้า
มีรายงานว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการมีร่วมมือจากธนาคารกลางของจีน , ธนาคารประชาชนจีน (PBoC) และหน่วยงานของรัฐอีกหลายแห่ง ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบสกุลเงินดิจิตอลในจีน โดยตรวจพบถึง 39 บริษัท ที่สงสัยว่าจะมีการทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
การดำเนินการตรวจสอบจะเน้นไปที่กิจกรรม 3 อย่าง ได้แก่ : 1.การให้บริการการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลหรือการเปิดสถานที่สำหรับซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลในจีน , 2. จัดหาช่องทางการให้บริการสำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลจากต่างประเทศ รวมถึงบริการต่าง ๆ , 3. ขายโทเค็นในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการระดมทุนสำหรับนักลงทุนด้วยสกุลเงินดิจิตอล เช่น Bitcoin และ Ethereum
โดยทางด้าน Dovey wan นักลงทุนและผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน Primitive Venture ได้ระบุว่า “การตรวจค้นส่วนใหญ่พบว่าเป็นโครงการหลอกลวง ponzi และแชร์ลูกโซ่ที่ใช้ crypto มาแอบอ้าง เนื่องจากเซินเจิ้นนั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นศูนย์กลางของสิ่งเหล่านั้น”
UPDATE: Shenzhen law enforcement identified 39 “illegal cryptocurrency” companies
— Dovey “Rug The Fiat” Wan🪐🦖 (@DoveyWan) November 22, 2019
Most likely are ponzi and crypto frauds as Shenzhen is known for being the hub of those. According to the news, exchanges involved will be impacted, waiting for full listhttps://t.co/pkVHYPVqlj https://t.co/gdsXyS28nO
ด้าน ซีอีโอ Binance ก็มากล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อกวาดล้างพวกนักหลอกลวงให้หมดไปจากอุตสาหกรรม
ที่มา : LINK