TenX (PAY) เป็นบัตรเดบิต cryptocurrency ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้ crypto ของพวกเขา เช่นเดียวกับการใช้จ่ายเงิน fiat ของพวกเขา ผู้ใช้สามารถนำบัตรไปรูดเพื่อซื้อสินค้าและบริการได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตามในช่วงแรกนั้นก็มีความล่าช้าในการเปิดตัวบัตรเช่นกัน
ดังนั้นแล้ว TenX จะสามารถทำตามสัญญาของพวกเขาได้จริงเหรอ?
ในการรีวิวนี้ จะเป็นพิจารณาในเชิงลึก เกี่ยวกับโครงการ รวมถึงทีมงาน , เทคโนโลยีและแผนงาน วิเคราะห์ศักยภาพการยอมรับในระยะยาวของ PAY tokens รวมถึงการจ่ายเงินและไม่ว่าพวกเขาจะกลับมาได้หรือไม่
TenX คืออะไร
TenX ไม่ใช่โครงการใหม่ เนื่องจากเปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 โดยสัญญาว่าจะสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลและบัตรเดบิตที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายเงินดิจิตอลกับสินค้าและบริการได้ทุกที่ โดยโครงการเพิ่งจะมาเปิดตัวบัตรเดบิตครั้งแรกในช่วงต้นปี 2018 แต่แล้วก็เจอปัญหาการส่งมอบบัตรล่าช้าออกไปเช่นกัน
ส่วนเหรียญ PAY token ของ TenX เป็นเหรียญ ERC-20 security token ที่ทำหน้าเหมือนเป็นหุ้นในบริษัท TenX
หลังจากเกิดความผิดพลาดในจัดส่งบัตรในครั้งแรก ทีม TenX ก็ได้โพสทวิตเตอร์ ในวันที่ 17 มกราคม เป็นคลิปวิดีโอ ซึ่งให้ความมั่นใจว่าผู้ใช้งานในในสิงคโปร์จะได้รับบัตร และในปีต่อมาก็เริ่มจัดส่งไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและยุโรป
และในที่สุดบัตรก็ออกวางจำหน่ายในสิงคโปร์ แต่มันสายเกินไปสำหรับ TenX หรือไม่? เพราะพวกเค้าไม่ได้เป็นเพียงโครงการเดียวที่สร้างบัตรเดบิตที่อนุญาตให้ผู้ใช้นำเงินดิจิตอลที่ถือครองไปใช้งานได้อย่างสะดวก
ทั้ง Crypto.com (เดิมชื่อโมนาโก) และโทเค็นของพวกเค้า ก็เป็นคู่แข่งขันที่รุนแรงกับ TenX โดยทั้งคู่ได้ทำงานเพื่อเร่งผลักดันกฎระเบียบที่จะอนุญาตให้มีการใช้บัตรชำระเงิน cryptocurrency สำหรับผู้บริโภค
COMIT และ TenX
TenX วางแผนในการฟรีค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน cryptocurrency ผ่านการใช้ Cryptographically-Secure Off-Chain Multi-Asset Instant Transaction ที่เรียกว่า (COMIT) network ซึ่งเป็นเครือข่ายที่แยกจาก TenX แต่กำลังพัฒนาโดยทีมเดียวกัน
COMIT จะใช้ specialized routing protocol ที่จะช่วยให้มีการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นระหว่าง blockchains ซึ่งจะส่งผลให้การแลกเปลี่ยนนั้นแทบไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่อย่างไรก็ตาม COMIT ไม่สามารถทำงานได้กับบล็อกเชนทั้งหมด และเข้ากันได้เฉพาะกับระบบที่มีการป้องกัน double spend protection และสนับสนุน hash functions , timelocks และ multisig
COMIT network จะทำงานผ่านผู้ให้บริการ Liquidity Providers ซึ่งทำให้กระบวนการตรวจสอบการแลกเปลี่ยนนั้นรวดเร็ว , ง่ายและไม่แพง โดยทีม TenX อธิบายว่ามันจะเป็นคู่แข่งสำหรับเครือข่าย SWIFT
นอกเหนือจากการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนขั้นพื้นฐานและการทำธุรกรรม ทีม TenX ยังวางแผนที่จะปล่อยชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาที่จะสนับสนุนการสร้าง และการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ กับ TenX เช่นสินเชื่อและ ETF โดยในที่สุด TenX วาดภาพในการเป็นเครือข่ายที่ให้บริการสำหรับทุกด้านของสินเชื่อและการชำระเงิน
ในขณะที่ demo ของการแลกเปลี่ยนระหว่าง PAY และ BTC โดยใช้ COMIT เสร็จสมบูรณ์แล้ว และ mainnet ของ COMIT ยังไม่ได้เปิดตัว โดยทีมงานยอมรับว่ายังคงต้องมีการทดสอบอีกมากในขณะนี้
อย่างไรก็ตามยังมีคำถามว่า COMIT จะพึ่งพา Ethereum blockchain หรือ blockchain ของตน การรันและการบำรุงรักษาแพลตฟอร์มในสโคปนี้นั้นทั้งยากและมีราคาแพงและไม่มีความแน่นอนที่ทีม COMIT สามารถจะทำสำเร็จ
ค่าธรรมเนียมบัตร TenX
แม้ว่าจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้บัตร TenX แต่มันก็มีค่าธรรมเนียมในการรับบัตร นั่นเป็นวิธีที่ TenX วางแผนในการระดมทุนในโครงการของพวกเขา
โครงสร้างนั้นถูกออกแบบมาว่าผู้ใช้จะจ่ายเงิน $1.50 เพื่อใช้บัตร TenX แบบดิจิทัล หรือ $15 เพื่อรับบัตรทางกายภาพ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับการใช้บัตรตราบใดที่คุณใช้จ่ายไม่เกินขั้นต่ำ $1,000 ต่อปี หากคุณไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำนั้นบัตร TenX มีค่าธรรมเนียมรายปี $10
ใน whitepaper มี rewards program ที่เชื่อมโยงกับการ์ด TenX และ PAY token โดยทั่วไปคุณจะได้รับรางวัลโดยถือโทเค็น PAY และใช้บัตร TenX
ใน whitepaper ของ PAY นั้นโทเค็นจะได้รับ 0.5% ของปริมาณธุรกรรมรายเดือนทั้งหมดบนเครือข่าย การชำระเงินเหล่านี้จะทำใน Ethereum และจะเติบโตไปพร้อมกับการใช้งานเครือข่าย และใน whitepaper ก็ระบุว่าจะได้เห็นเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่และมีการชำระเงินทุกชั่วโมง
นอกจากนี้ whitepaper ยังสรุปถึงโครงการรางวัลสำหรับผู้ใช้บัตร ซึ่งพวกเขาจะได้รับรางวัล 0.1% ในรูปแบบของ PAY โทเค็นทุกครั้งที่ใช้บัตร TenX
น่าเสียดายที่โปรแกรมรางวัลเหล่านี้ไม่เคยถูกนำมาใช้ และจนถึงเดือนตุลาคม 2018 ก็ถูกลบออกโดยทีมงานระบุว่าพวกเขากำลังคิดทบทวนโปรแกรมรางวัลใหม่
ทำให้ในเวลานี้ไม่มีมอบโปรแกรมรางวัลใดๆ และมีผู้ใช้งานก่อนหน้าจำนวนมากที่รู้สึกไม่พอใจกับโครงการ เนื่องจากการซื้อ PAY โทเค็นนั้น ก็ด้วยความเข้าใจว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลตามโปรแกรมที่พูดถึงใน whitepaper ของ TenX
TenX Platform
แม้ว่า COMIT อาจจะยังไม่พร้อม แต่แพลตฟอร์มดังกล่าวก็มาพร้อมกับชุดเครื่องมือและตัวควบคุมที่แข็งแกร่งสำหรับผู้ใช้
โดยผู้ใช้สามารถป้องกันการใช้บัตรโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ โดยการกำหนดวงเงินในการใช้จ่าย , ถอนและซื้อสินค้า และสามารถจำกัดวงเงินรายวันหรือ overall limits โดยทั้งหมดนี้จะทำผ่าน Decentralized Security Smart Contracts
แน่นอนว่าประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้คือพวกเขาสามารถใช้จ่ายเงินดิจิตอลที่ร้านค้าปลีกที่รับบัตรวีซ่าได้ทันที โดยไม่ถูกจำกัดเฉพาะกับร้านค้าที่รับ cryptocurrency อีกต่อไป
ทั้งหมดนี้ทำผ่านตัวกลางทางการเงินที่ถือเงินดิจิตอลที่ฝากไว้ใน escrow และชำระเงินให้กับพ่อค้าเป็นเงิน fiat ผู้ให้กู้จะชำระบัญชีตามอัตราแลกเปลี่ยนโดยจะมีผลเมื่อเกิดธุรกรรม ร้านค้าจะได้รับเงินทันที แต่อาจใช้เวลาหลายวันในการชำระธุรกรรมใน backend
ก่อนหน้านี้ WaveCrest ก็ได้สนับสนุนการ์ด TenX แต่ไม่มีการประกาศว่าใครจะเป็นผู้สนับสนุนการ์ดที่กำลังจัดส่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้ว่า TenX พยายามที่จะขอใบอนุญาต banking license เพื่อเป็น financial backer หากสิ่งนี้เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดความหนักใจว่าจะทำให้ TenX เป็น centralized มากขึ้น
TenX Crypto Wallet
TenX ยังได้พัฒนา mobile wallet ซึ่งจะทำงานร่วมกับบัตรเดบิตคริปโตของพวกเขา โดยสามารถใช้งานได้เหมือนกระเป๋า crypto mobile wallet อื่นๆ และปัจจุบันรองรับ Bitcoin (BTC), Ethereum และ Litecoin
แอพดังกล่าวจะใช้งานคู่กับบัตรเดบิตเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ crypto ในการซื้อสินค้าในร้านช้อปปิ้งออนไลน์หรือถอนเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มได้ทันที นอกจากนี้คุณยังสามารถควบคุมบัตรได้จากในแอพในกรณีที่บัตรเกิดการสูญหายโดยการปิดใช้งานชิป
เคล็ดลับความปลอดภัย : ขณะที่คุณดาวน์โหลดแอพ ต้องแน่ใจว่าคุณได้เปิดใช้งาน two factor authentication หรือ 2FA
TenX App เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานหลังจาก ICO ในเดือนพฤศจิกายนปี 2017 และได้รับการพัฒนาตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันมีให้บริการทั้งใน iOS และ Android โดยถ้าเราไปดูที่ stores ในแอพนั้น ๆ เราจะสามารถดูรีวิวจากผู้ใช้จริงได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจสอบความคิดเห็นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจะพบว่าความคิดเห็นส่วนใหญ่ดูเหมือนจะไม่พอใจกับความล่าช้าในการจัดส่งของบัตรเดบิต แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะดูมีเหตุผล แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานของแอพหรือกระเป๋าเงินแต่อย่างใด
สิ่งที่น่ายินดีคือการได้เห็นนักพัฒนาของ TenX กำลังติดตามข้อร้องเรียนและบทวิจารณ์เหล่านี้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเปิดกว้างต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของชุมชนและทำให้พวกเขาได้รับรู้ปัญหา
นอกจากนี้พวกเค้ามีแผนที่จะเพิ่มการรองรับ cryptocurrencies เพิ่มเติมให้กับแอพ แม้ว่าทีมอาจจะดูหมกมุ่นอยู่แต่กับการเปิดตัวบัตรเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ตามที
ทีม TenX
ทีม TenX ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอคือ Toby Hoenisch ซึ่งก่อนที่จะก่อตั้ง TenX นั้น Toby เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า One One Agency ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างระบบการชำระเงินสำหรับ private clients
ผู้ร่วมก่อตั้งคนที่สองคือ Michael Sperk ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ TenX โดยมีประสบการณ์ด้านวิศวกรรมและด้านเทคนิคที่ Visualyze ซึ่งเขาได้ช่วยพัฒนาเครื่องมือบนเบราว์เซอร์ ซึ่งจะทำการวิเคราะห์ข้อความบนโซเชียลมีเดีย และสามารถประมวลผลข้อความนับแสนได้แบบ real-time
ผู้ร่วมก่อตั้งคนที่สามคือ Paul Kittiwongsunthorn ซึ่งทำงานร่วมกับ Toby ที่ One One Agency และทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของ TenX
อันที่จริงแล้วยังมีสมาชิกผู่ก่อตั้งคนที่ 4 อีกหนึ่งคน อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ก่อตั้งในเว็บไซต์ TenX อีกต่อไปเนื่องจากเกิดการโต้แย้งเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผ่านมาของเขาในอดีต โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับโครงการ ponzi ตั้งแต่ 2011 จนถึง 2015 โดยสมาชิกคนที่ 4 คือ Julian Hosp และเขาได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานบริษัท TenX เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2019
PAY Token
TenX ใช้ PAY token ซึ่งเป็น security token สำหรับเครือข่าย และการระดมทุน ICO ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2017 ก็มีขนาดใหญ่มาก โดยสามารถระดมทุนได้ถึง 80 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงวันเดียว โดยขาย PAY token ในราคา $0.8701 ต่อคน และราคาก็เริ่สูงมขึ้นในเดือนสิงหาคม 2017 และทำสถิติสูงสุดที่ 6.21 ดอลลาร์ในวันที่ 12 สิงหาคม 2017 ก่อนจะค่อยๆร่วงลง
แต่แล้วในเดือนมกราคม 2018 ราคาก็ถูกดึงกลับจนเกือบถึงราคาราคาสูงสุดอีกครั้ง โดยกลับมาที่ $5 ก่อนที่จะร่วมหัวจมท้ายไปกับตลาดหมี cryptocurreny ที่เหลือตลอดปี 2018
PAY token นั้นไม่สามารถขุดได้ เนื่องจาก supply ทั้งหมดถูกขุดไว้ล่วงหน้า โดยมี supply ทั้งหมดอยู่ที่ 205,218,256 PAY และในปัจจุบันมี circulating supply อยู่ที่ 114,347,861 PAY โดยคาดว่าจะมีการปล่อย supply ของ PAY token มาอีกประมาณ 55 ล้าน PAY ในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขอ business development fund และ community ในขณะที่โทเค็นที่เหลือจะถูกแบ่งระหว่าง บริษัท TenX และผู้ก่อตั้ง
ปัจจุบัน PAY token ถูกลิสต์อยู่ในเว็บเทรดจำนวนมาก ยกเว้น Binance โดยเว็บเทรดที่มีปริมาณการซื้อขาย PAY token สูงสุดคือ Dcoin และ Bithumb นอกจากนี้ก็มี OKEx , Bittrex , Upbit, Huobi Global และ Gate.io
ขณะที่ดูเหมือนจะมีสภาพคล่องที่เหมาะสมสำหรับ PAY token บนเว็บเทรดทั้งหมดเหล่านี้ แน่นอนว่าปริมาณการซื้อขายจำนวนมากนั้นเกิดขึ้นในเว็บเทรดในเอเชียถึง 2 แห่ง ซึ่งหมายความว่า PAY นั้นมีความอ่อนไหวต่อข่าว (โดยเฉพาะในเกาหลีใต้) ดังนั้น PAY จึงมีความผันผวนมากกว่าโทเค็นที่ใกล้เคียงกัน
หากคุณซื้อ PAY tokens วิธีที่ดีที่สุดคือการเก็บเงินไว้ในกระเป๋าเงิน โดย PAY นั้นเป็นเหรียญ ERC-20 จึงสามารถที่จะเก็บในกระเป๋าใดๆก็ได้ที่รองรับ เช่น MyCrypto หรือ MyEtherWallet
ข้อสรุป
TenX เริ่มต้นด้วยความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่และถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไป TenX ก็อาจจะขึ้นมาเป็นผู้นำในการทำให้ cryptocurrencies นั้นใช้งานได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม จากความผิดพลาดในอดีตของทีมงาน ทำให้ TenX ยังเกือบจะอยู่ที่จุดเดิมหรือแม้กระทั่งพยายามที่จะไล่ให้ทันคู่แข่ง ซึ่งปีที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นตัวบอกว่า TenX จะสามารถกลับมาครองอำนาจได้หรือไม่
ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาสามารถขยายการใช้งานบัตรเดบิตของพวกเค้าได้เร็วเพียงใด รวมถึงการเพิ่มการรองรับ cryptocurrencies ใหม่ๆให้กับระบบนิเวศ และการเพิ่มระบบรางวัลซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักลงทุนในยุคแรก ๆ
นอกจากนี้ COMIT ที่กำลังเปิดตัวบนเครือข่ายหลัก ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุนและค่าธรรมเนียมให้ถูกลง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ TenX จะมีสิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าชุมชน cryptocurrency จะยอมยกโทษให้กับข้อผิดพลาดของ TenX และยอมรับพวกเขาให้เป็นโครงการที่น่าสนใจได้อีกครั้ง เมื่อมองไปที่การต่อสู้ PAY กำลังประสบปัญหาในการกู้คืนความสำเร็จในอนาคตของโครงการ ซึ่งยังคงเป็นสิ่งที่น่าสงสัย
ผู้สนใจสามารถโหลด App TenX ได้ที่ >> TenX Mobile App
ที่มา : LINK