รายงานจากสำนักข่าว khaosod เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ระบุว่าพบศพชายผูกคอตาย เสียชีวิตอยู่ภายในห้องพัก คาดถูกหลอกลงทุนในแชร์ลูกโซ่ที่แอบอ้าง Bitcoin จนหมดตัว จึงตัดสินใจใช้สายไฟจบชีวิตตนเอง
ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุพบศพชายผูกคอเสียชีวิตภายในห้องพักแมนชั่น ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงประสานแพทย์ร.พ.ศูนย์อุดรธานี แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธาธรรมสถาน โดยที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องพักหมายเลข 301 พบศพชาย อายุ 37 ปี บ้านอยู่ ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี สวมกางเกงขาสั้นตัวเดียวใช้สายไฟผูกคอโยงกับราวผ้าม่านหน้าต่างบานเกร็ด พันเข้ากับลูกปิดประตูหลังห้องพัก ตรวจสอบสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้าย
เมื่อสอบถามทางญาติของผู้ตายซึ่งเป็นหลานชาย อายุ 28 ปี ให้การว่า ผู้ตายไม่มีครอบครัว เป็นคนไม่ค่อยพูด และก่อนหน้านี้เคยชวนตนมาร่วมลงทุนกับสกุลเงินดิจิตอลในอินเตอร์เน็ต โดยบอกว่าได้กำไรงาม แต่ผมไม่เล่นด้วยเพราะไม่มีความรู้รื่องนี้ มาระยะหลังราว 2 สัปดาห์ เห็นผู้ตายบ่นว่าขาดทุนและถอนเงินคืนไม่ได้ ทำให้มีอาการซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องตกงานคิดว่าไม่ใช่สาเหตุ เนื่องจากผู้ตายมีเงินเก็บสะสมจากการไปทำงานบนเกาะสมุยมากพออยู่แล้ว
จากการวิเคราะห์คำให้การของญาติผู้ตาย คาดว่าผู้ตายนำเงินลงทุนในแชร์ลูกโซ่ที่ใช้ Bitcoin มาแอบอ้าง โดยไม่ได้มีการเทรดในตลาดที่ได้รับการรับรอง เนื่องจากการเทรด Bitcoin ในตลาดที่ได้รับการรับรองในไทยนั้น จะต้องสามารถถอนเงินคืนได้ แต่กลับเจอปัญหาไม่สามารถถอนเงินได้ ซึ่งลักษณะนี้มักจะพบเจอได้จากโครงการหลอกลวงหรือแชร์ลูกโซ่ ที่มักปิดตัวหรือผัดผ่อนการถอนเงินไปเรื่อยๆ โดยจะหลอกเหยื่อด้วยการเสนอเงินปันผลเมื่อนำ Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆมาฝากไว้กับตน โดยจ่ายเป็นรายวันบ้าง หรือรายเดือนบ้าง (มักอ้างว่านำเงินเราไปเทรดด้วย AI อัจฉริยะสามารถเทรดได้กำไรทุกเดือน หรือมาในรูปแบบของกระเป๋าเงินดิจิตอลที่จ่ายปันผลให้เมื่อนำ Bitcoin ไปฝาก และสุดท้ายก็ปิดตัวหนีไป)